หน้าเว็บ

กลอน ๒

อาลัย หลวงพ่อคูณ
หลวงพ่อคูณ มรณภาพ ทราบแน่แล้ว
เหลือเพียงแนว วาจาพร่ำ ฝากคำสอน
ธรรมะกู สู่ศิษยา เอื้ออาทร
เมตตาบ่อน สอนศิษย์สู้ อยู่ยาวนาน

อนิจจา สังขาร ท่านโรยร่วง
ถึงจะห่วง แสนรัก สุดหักหาน
สุดจะยื้อ ชีพอยู่ สู้กราบกราน
แต่สังขาร มาพราก ท่านจากไป

โอ้โอหนอ หลวงพ่อคูณ บุญมีมาก
แต่ก็จาก เพราะสังขาร ไม่หาญให้
หมดอายุ สังขาร ท่านจึงไป
ตัดเยื่อใย ทุกสิ่ง ดิ่งจากเลย

ธรรมะมึง ธรรมะกู ดังกู่เรียก
สุดจะเพรียก เรียกหา หลวงตาเอ๋ย
แต่ก่อนนี้ ถึงอยู่ไกล ยังได้เคย
อ่านคำเปรย ธรรมสุดเยี่ยม เปี่ยมเมตตา

ถึงไม่ได้ เข้ากราบ ทราบแน่ชัด
พระเถรัต-ตัญญู ผู้หาญกล้า
ผู้องอาจ ผงาดสู้ อยู่ทุกครา
ล้นเมตตา ซึมซาบ อาบดื่มชน

ธรรมตรงตรง ไม่อุปโลกน์ เหมือนโขลกสับ
แต่ก็กลับ มีคนหา เข้ามาสน
เทพศักดิ์สิทธิ์ ทางวาจา มหาชน
มีผู้คน หลั่งไหล ไหว้กราบกราน

ต่อไปนี้ ไม่มี หลวงพ่อแล้ว
เถระแก้ว ของเหล่า ชาวอีสาน
มหาเถร เมตตาคุณ หนุนยาวนาน
ชาวโลกกราน วานกราบ ท่านจากจร

หลับเถิดหนา หลวงพ่อครับ หลับให้สุข
ตัดชาวพุทธ ตัดเยื่อใย ไปสลอน
อย่าเป็นห่วง ศิษยา ถึงอาทร
ตัดทุกตอน ตัดบ่วง ห่วงวิญญาณ์

ถึงชาวพุทธ สุดอาลัย ใจสลาย
ทุกคนได้ ทำบุญพรั่ง ยังห่วงหา
ยังตราตรึง ในคำสอน ตลอดมา
ขอบุญญา เป็นครรลอง แสงส่องทาง





หลวงพ่อคูณ มอบร่าง สร้างบารมี

ลูกหลานเอ๊ย ลูกหลาน สังขารฉัน 
ก็มีอัน คืนถิ่น สิ้นสลาย 
วิญญาณฉัน ปราศสิ้น ทิ้งร่างกาย 
ส่วนพินัย- กรรมฉัน นั้นอย่าลืม 

ฉันได้มอบ สรีระจิต อุทิศร่าง 
ถึงจะห่าง บ้านฉัน ฉันก็ปลิ้ม 
บริจาค โรงบาล นั้นอย่าลืม 
อย่าทำคืน พินัยกรรม ฉันผันแปร 

ฉันยังยืน- ยันคำเก่า ที่เล่าไว้ 
ว่าจะให้ โรงบาล นั้นแน่แน่ 
เพื่อทำบุญ ทุกคืนวัน ไม่ผันแปร 
ส่วนบุญนั้น ฉันจะแผ่ ให้ทุกคน 

จุดมุ่งหมาย ที่ฉัน นั้นมอบร่าง 
ก็เพื่อสร้าง ปัญญา หาสืบค้น 
ให้ลูกหลาน คนไทย ให้ได้ยล 
เพื่อฝึกฝน ปัญญา วิชาการ 

ดีกว่าปล่อย เป็นเชื้อไฟ ไร้สาระ 
อีกทั้งจะ วุ่นวาย อยู่หลายด้าน 
ตัดปัญหา แย่งศพ ที่พบกัน 
ตามใจฉัน บ้างหนอ ฉันขอตาย 

อีกอย่างหนึ่ง เพิ่งคิดออก บอกให้รู้ 
อย่าหดหู่ จงอดกลั้น ฉันให้ได้ 
จงตัดจิต ตัดบ่วง ห่วงอาลัย 
เพราะฉันไป ทำบุญ อยู่มุมเมือง 

อย่าทำศพ ของฉัน นั้นเลอเลิศ 
เพราะจะเกิด ปัญหา มาหลายเรื่อง 
มองให้เห็น เป็นอสุภะ นะไม่เปลือง 
อย่าเอาเรื่อง เป็นเกร็ดใส มาใส่กู 

ให้พวกมึง เห็นกู อสุภะ 
เพื่อที่จะ เบื่อหน่าย อย่าให้หรู 
พร้อมมุ่งหา ปัญญา ศึกษาดู 
อย่าติดอยู่ แค่เปลือก เลือกทางไป 

มองให้เห็น เป็นอสุภะ จะประเสริฐ 
จะก่อเกิด ปัญญา พาไปได้ 
อย่าอับทึบ มึนงง และงมงาย 
เก็บเป็นฐาน สร้างไว้ ในใจตน 

อย่ายินดี ติดอาลัย ในสังขาร 
เพียงมองผ่าน เกิดปัญญา มหาผล 
ปัญญาญาณ สังขารกู อยู่ไม่ทน 
อีกกี่ฝน จงใช้ ได้ปัญญา 

ลูกหลานผู้ อยู่ใช้ ให้รีบเร่ง 
จงบรรเลง ตั้งใจ ใฝ่ศึกษา 
สังขารฉัน ดุจท่อนไม้ ใกล้เวลา 
จะถึงครา เปื่อยยุ่ย ขลุยแผ่นดิน 

ฉันไม่มี อาลัย ในสังขาร 
เป็นสะสาร มอบไว้ ให้หมดสิ้น 
อย่าเกรงกลัว ไม่กล้า มาระคิน 
จงลืมสิ้น ว่าเป็นกู สูเล่าเรียน 

ทุกอนู ของสังขาร ฉันไม่หวง 
จะเจาะบ่วง งัดงอ ขอเกษียน 
จะงัดแงะ อย่างไร ขอให้เรียน 
จงพากเพียร เกษียนไป ให้ได้คุณ 

จงกระทำ ตามนั้น ที่ฉันบอก 
ทุกมุมซอก บอกไว้ จะไม่วุ่น 
ถึงมีบ้าง ธรรมดา มานะจุน 
กิเลสคน ยุ่งเหยิง เกินทัดทาน 

ฉันขอลา ชาวบ้านไร่ ไปละเด้อ 
นายอำเภอ ผู้ว่า จงกล้าหาญ 
อ.บ.ต. ผู้ใหญ่บ้าน ท่านกำนัน 
ตรงนี้นั้น เป็นกลอน ย้อนวกวน 

กับอีกทั้ง ชาวพุทธ ทุกทุกศิษย์ 
ผู้อุทิศ เวลา มาดั้นด้น 
มาหาฉัน ทั้งภาคพื้น ภูมิดล 
ขอทุกคน จงสบาย ไร้โรคา 

ส่วนเครื่องลาง ของฉัน ตั้งสติ 
ให้ดำริ อย่าประมาท วิบัติหนา 
เก็บเตือนจิต คิดเลิศ เกิดปัญญา 
อย่าคิดว่า ปลอดภัย ใช้ให้เป็น 

ทุกคำสอน ของฉัน นั้นเหมือนเดิม 
อย่าไปเพิ่ม หรือลัด ตัดทุกเข็ญ 
อย่าบิดเบือน คำฝาก เป็นกากเดน 
หากใครเห็น ว่าไม่ดี มีที่ดู 

ให้ดูเทียบ ต้นสาย พระไตรปิฎก 
พุทธพจน์ จอมปราชญ์ อาจจะรู้ 
ถึงยังไง ฉันก็มี บรมครู 
จะมึงสู กู,เอง,ข้า ดูบาลี 

คำเหล่านี้ แปลได้ หลายนัยะ 
ที่พบปะ โบราณ ท่านบ่งชี้ 
หากตัวตน ของตน คนไม่มี 
ก็หลบหลี้ หนีคำหยาบ เท่านั้นเอง 

สุดท้ายนี้ ฉันเมื่อยหล้า ขอลาก่อน 
ฉันขอสอน ศิษย์ทุกใจ ให้สุดเจ๋ง 
อย่าแตกหัก ซ่องสุม กุมนักเลง 
อย่าอวดเบ่ง เครื่องลางไล ฉันให้มา 

จงสมัคร รักสามัคคี นี้แน่นเหนียว 
จงเกาะเกี่ยว อย่าเกะกะ มานะข้า 
จงทำบุญ สุนทาน สร้างปัญญา 
บ้านวัดวา โรงเรียน เรื่องสำคัญ 

จงจับมือ สอดรับ จับให้ดี 
จะได้มี ปราการ มากางกั้น 
เป็นกำแพง แข็งเหล็ก เพชรอนันต์ 
คืนและวัน จะสุขี นิรันดร์ 


ประพันธ์เพื่อเป็นการสดุดีปฏิปทาหลวงพ่อคูณ โดย.. 
พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร 
พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 12 
วัดพุทธนานาชาติ ออสติน เท็กซัส 


19 พ.ค. 58 
เวลา 09:09 น.( AM)




ทอดสายตา เหม่อลอย ปล่อยความคิด
ดวงอาทิตย์ มิดดับ ลาลับแสง
เหล่าวิหค ผกผิน ถิ่นยามแลง
ดวงใจแห้ง แผดเผา เราอีกครา

คิดถึงพ่อ ที่ป่วย ด้วยโรคร้าย
อยู่หนองคาย ได้แต่ แค่โหยหา
เพราะต้องจาก พากเพียร เรียนปริญญา
ส่วนบิดา โรคาย่ำ น้ำตาคลอ

เรียนปริญญา เรื่อยไป ใจห่อเหี่ยว
ใจเฉลียว เปลี่ยวจิต คิดถึงพ่อ
โอป่านนี้ บิดา ตั้งตารอ
ไม่นานหนอ ลูกจะจบ มาพบกัน

เหมือนฟ้าฟาด ขาดลง ตรงดวงจิต
เหมือนโดนมีด กรีดลง ตรงใจฉัน
เมื่อรู้ข่าว ว่าพ่อตาย วายชีวัน
ตอนมาเรียน ปริญญานั้น ไม่ทันนาน

กว่าจะสิ้น ปริญญา พ่อมาจาก
เหลือแต่ซาก ธุลี ที่สุสาน
ขอฝากกลอน บทซึ้ง ถึงวิญญาณ
เป็นข่าวสาร วิญญาณพ่อ ที่รอคอย
...................................................





สาเหตุที่ทุเรียนมีกลิ่นเหม็น


มีบุรุษ ตื่นแต่เช้า เข้าไปถ่าย

บนขอนไม้ ในป่า พนาสณฑ์

ใต้ต้นไม้ ต้นหนึ่ง ซึ่งพิกล

เพราะที่ผล มีหนามแหลม แซมกระจาย



ในขณะ ที่นั่งอึ นึกเพลินเพลิน

ก็บังเอิญ ลมสะบัด พัดต้นไม้

เจ้าผลแปลก ก็ ตก ลงทันใด

กระแทกใส่ ไม้ขอน ตนนั้นเอง


ฝ่ายบุรุษ คนนั้น นั่งเสียหลัก

หงายท้องปัก ทับขี้ ที่เหมาะเหม็ง

ทั้งผลไมั ก็เปรอะ เลอะละเลง

ทั้งกางเกง ผลไม้ทิ่ม กลิ่นเดียวกัน


ผลไมัแตก แยกเห็นพู อยู่ข้างใน

มีเม็ดใหญ่ งามซะ อะไรนั่น

บุรุษเห็น บอกไส้กิ่ว หิวทั้งวัน

ไม่จำนรรจ์ ลองหม่ำดู อยู่วนา



พอได้ลิ้ม รองรส ผลไม้

ก็ถูกใจ อร่อยรัก เป็นหนักหนา

ถึงกลิ่นจะ เหม็นบ้าง ก็ช่างหนา

แต่ทว่า รสของมัน หวานมากมาย


พร้อมกับเก็บ เม็ดใส่ตลับ กลับไปบ้าน

พอไม่นาน ก็ปลูก ซุกเม็ดไว้

มันแตกหน่อ เติบโต เร็วทันใจ

ออกผลได้ คล้ายต้นเดิม เพิ่มลูกโต


ผลไม้ กระชาย นายผู้นี้

รสนั้นดี แต่เหม็น เป็นอักโข

เพราะประวัติ ตกใส่ขี้ ที่กองโต

นำมาโชว์ สาธก ตลกกัน


เป็นนิทาน โบราณเล่า เอามาแต่ง

เพื่อเป็นแหล่ง ข้อมูล เพิ่มสุขสันต์

ส่วนคลาดเคลื่อน ความจริง สิ่งจำนรรจ์

อย่าว่ากัน เลยนะ พุทธะชน


ใครที่รู้ ความจริง สิ่งที่พบ

นำมาถก กันได้ วันหลายหน

เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้ มนูชน

ก่อนวกวน ขอจบที เท่านี้เอย..


สามัคคี/ให้อภัย/รักษาน้ำใจ/พูดให้กำลังใจกัน เส้นทางแห่งความอยู่รอดทุกสังคม



สามัคคี จูนใจ กันไว้เถิด 
จะก่อเกิด พลา มหาผล 
แผ่นดินแยก แตกสามัคคี กรียุคดล 
เราเป็นคน หากแยก แตกร้ายกว่า 

ให้อภัย อโหสิ มีตัวเชื่อม 
ไม่กระเพื่อม จะชุ่มเย็น เป็นหนักหนา 
จะราบเรียบ ไม่มีเลศน์ เจตนา 
กายวาจา จิตสงบ พบพระธรรม 

รักษาน้ำใจ เสริมต่อ ถักทอจิต 
กระชับมิตร คิดชอบ ไม่บอบช้ำ 
พร้อมยืดหยุ่น ทุกด้าน การกระทำ 
จะสุขล้ำ บนโลก ไม่โศกตรม 

แสดงออก สีหน้า วาจาบ้าง 
อย่าเหินห่าง หลีกเลี่ยง ทำเสียงขรม 
หากทำดี ทุกคราว กล่าวคำชม 
สื่อคารมณ์ เพียงน้อยนิด จิตชื่นบาน 

ชมตอนที่ มีชีวิต จะสุดเยี่ยม 
ดีกว่าเตรียม ข้อมูลพูด ที่สุสาน 
กล่าวคำชม ศพนิ่ง สิ่งเห็นกัน 
จบจำนรรจ์ กลอนพาที เท่านี้เอย..




กลอนสะท้อนชีวิตของยายท่านหนึ่ง ซึ่งผ่านเวลาเก่ามานาน แต่ทว่าลูกหลาน ได้เผาผลาญความสุขของท่านไปหมดสิ้น เหลือเพียงรอยแก่ความทุกข์ ความย่น ความตกกละ เท่านั้น เป็นของขวัญชีวิต 
(ภาพนี้เป็นเพียงภาพประกอบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่ประการใด) 

กำลังจะตาย.. 
.......................... 
ก่อนจะสิ้น ปีเก่า ขอเล่าถึง 
ให้คำนึง ชีวิตเก่า อยากเล่าขาน 
สะท้อนหญิง แก่ชรา อยู่ช้านาน 
คืนวันผ่าน ระทมทุกข์ สุดชีวี 

สามีตาย ไปสุดกู่ อยู่เดียวโดด 
ยายก็อด ทนสู้ อยู่ไม่หนี 
อยู่กับลูก และหลาน เนิ่นนานปี 
ทุกข์ทวี เจอปัญหา คณานับ 

ลูกสาวนั้น ติดสุรา เป็นบ้าเหล้า 
หลานก็เมา ยาบ้า คราตกอับ 
เงินไม่มี ลูกติดยา ไม่หาทรัพย์ 
สองหลานนับ วันจี้คอ รอวันตาย.. 

หลานหญิงชาย ได้เสพย์ยา หาลักของ 
นำตานอง ร้องให้ ใจสลาย 
หลานขโมย ของในบ้าน ไปหลายราย 
นำไปขาย เพื่อต่อใจ ไว้เสพยา 

เจอสภาพ หลานลูก อยู่ทุกวัน 
สุดต้านทาน กระอัก เป็นหนักหนา 
อยากจะสอน ก็จนจิต อนิจจา 
ลูกหลานข้า เหล้า,บ้าสิง นั่ งนิ่งงัน 



ยายได้มอง ทั้งน้ำตา ถึงคราแย่ 
ตายแน่แน่ ชีวิตยาย ใจกายสั่น 
ผวากลัว หลานลูก อยู่ทุกวัน 
เทพสวรรค์ ใดหนา ช่วยข้าที 

ยายคร่ำครวญ ทั้งน้ำตา คราจะนอน 
ทั้งอ้อนวอน คุณพระธรรม นำสุขี 
คุณพระพุทธ พระสงฆ์ด้วย ช่วยลูกที 
ชีวิตนี้ สุดท้าย ไ ด้แต่ปลง 

ประสบเหมาะ เคราะห์กรรมใด ในครั้งนี้ 
จึงถึงที ทำยาย ไม่ประสงค์ 
ยายตัดพ้อ ชะตาใย ทำได้ลง 
ยายงวยงง กับชีวิต อนิจจา 

อุตส่าห์เลี้ยง ลูกหลาน ปานใจขาด 
ยอมลำบาก ทั้งกายใจ ได้เสาะหา 
ทั้งทำงาน เหนื่อยเหน็ด เก็บเงินตรา 
เพื่อนำมา เลี้ยงลูกหลาน ผ่านพ้นภัย 

ยอมนุ่งผ้า เก่าขาด ประหยัดสุด 
เพื่อหลานลูก ราบรื่น ยายยื่นให้ 
ท่านยอมอด ยามหิว กิ่วขาดใจ 
เพื่อเก็บไว้ ให้ลูกหลาน ท่านนั้นยอม 

ท่านถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงหลานลูก 
ถึงจะทุกข์ กายใจ ยายก็พร้อม 
ท่านมีบ่วง หลายห่วง ดวงพยอม 
แต่ท่านพร้อม จะสู้ ไม่ดูแคลน 

ท่านหวังว่า วันหนึ่ง อยากพึ่งลูก 
อยากได้ซุก ลูกหลาน อันสุขแสน 
อยากพักผ่อน ตอนบั้นปลาย ตอนไร้แฟน 
ถึงแร้นแค้น ไปบ้าง ก็ช่างมัน 

อนิจจา ลูกหลานโต โมฆะเปล่า 
พากันเหมา ติดยา หาขยัน 
ทั้งติดเหล้า ติดยาบ้า บ้าพนัน 
ทุกข์โรมรัน เผาเรือน เหมือนอบาย 

ไม่สำนึก คิดแทนคุณ ที่อุ่นเอื้อ 
ไม่จุนเจือ ผู้มีพระคุณ หนุนส่งให้ 
ใช้ชีวิต เพลิดเพลิน ระเริงใจ 
สิ่งสุดท้าย ยายต้องนั่ง หลั่งน้ำตา 

นี่นะหรือ คือสิ่งมอบ ตอบแทนให้ 
นี่นะหรือ ตอบแทนใจ อาลัยหา 
นี่นะหรือ คือกตัญญู รู้มารดา 
นี่นะหรือ สิ่งบูชา คราเติบโต 

นี่นะหรือ ? คือของขวัญ วันปีใหม่ 
นี่นะหรือ ? คือกำลังใจ ใหญ่อักโข 
นี่นะหรือ? คือสิ่งดี ที่อยากโชว์ 
นี่นะหรือ คือความโก้ ที่โชว์กัน 


สมแล้วหรือ? สุดท้าย ยายได้รับ 
สมแล้วหรือ? ยายกลับ รับโศกศัลย์ 
สมแล้วหรือ? ลูกหลายคิด ริทำกัน 
สมแล้วหรือ? คือวัน ที่ท่านรอ 

ขอเป็นสื่อ สะท้อนจิต ชีวิตยาย 
ขอระบาย ความจริง ทิ้งพอศอ 
ขอสะท้อน ชีวิตเก่า ที่เฝ้ารอ 
ความสุขหนอ ขอให้ยาย ท่านไว้ดู 

แปดสิบกว่า ของยาย ใกล้จะกรอบ 
ขอให้มอบ กำลังใจ ให้ท่านสู้ 
ขอลูกหลาน จงเลิกยา พาเชิดชู 
จงกอบกู้ ชีวิตยาย ในเร็ววัน 

ขอจงเริ่ม ชีวิตหนอ พ.ศ.ใหม่ 
พร้อมด้วยใจ ที่บริสุทธิ์ อย่างสุขสันต์ 
อยู่กับยาย ไ ร้ยา ค่าอนันต์ 
เป็นของขวัญ ปีนี้ สุขีเอย..... 

.......................................................................... 

ขอมอบกลอนนี้ สะท้อนถึงชีวิตของคนที่อยู่กับปีเก่า หลายปีแล้ว ที่แม้ปีใหม่และปีเก่าจะผ่านไปสักครั้ง กี่ปีก็ตาม คนเก่าคนนี้ ก็ยังไม่มีความสุขเพิ่มตามปีเลย ตรงกันข้าม กับ"กำลังจะตาย" เพราะลูกหลานติดยาบ้า ไม่รู้วันไหนจะปากคอยาย เป็นภัยครอบครัว ที่อยากสะท้อนให้คนในสังคมได้เห็นและได้รับรู้ว่ายังมีครอบครัวที่เป็นลักษณะนี้มากมายในสังคมไทย ที่ขาดการเหลี่ยวแล.. 

เมื่อท่านอ่านคำกลอนนี้จบแล้ว ขอให้ก่อนสิ้นปีนี้ ขอให้นึกถึงชีวิตผู้มีพระคุณเรา ว่าท่านอยู่สุขสบายดีหรือเปล่า มีภัยอะไรบ้างที่กำลังเกิดกับท่าน? หากมี ก็ช่วยหาทางแก้ไขให้ท่านบ้าง เพราะพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ท่านไม่มีกระบอกเสียง ไม่มีใครช่วยท่านหรอก มีแต่ลูกๆที่ยังสติดีๆนี่แหละที่จะต้องหาวิธีการเรียนรู้เอง จะให้ท่านมาเรียกร้องความยุติธรรมนั้น ก็คงไม่มีวันหรอก....ก็ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ 


                 




               พุทธานุสสติกัมมัฏฐาน

พุทธา- นุสสติ กัมมฐาน
ถือเป็นงาน ของใจ ให้คิดถึง
องค์พุทธ- นะมะไว้ ให้รำพึง
นับเป็นหนึ่ง อารักขะ-ธรรมะทอง

เมื่อใดเกิด ความท้อแท้ แลสิ้นหวัง
ไม่สมดัง ใจคิด จิตเศร้าหมอง
เห็นพระพุทธ สวยหรู ดูเรืองรอง
ความขัดข้อง หมองใจ มลายพลัน


จงระลึก คราพระองค์ ที่ทรงสู้
กับพวกหมู่ มารร้าย ได้ข่มขวัญ
ตอนพระองค์ ทรงบำเพ็ญ โมกขธรรม์
จนพวกมัน ไม่หาญสู้ กรูหนีไป


เราต้องสู้ เช่นพระองค์ ที่ทรงสอน
ธรรมาภรณ์ ขันติธรรม นำสมัย
ต้องอดทน ดั่งชินะ พระจอมไตร
กิเลสมาร น้อยใหญ่ ให้เข้ามา

เห็นองค์พุทธ ต้องเห็นธรรม จะล้ำเลิศ
จะประเสร็ฐ ได้แค่เห็น เป็นหนักหนา
เห็นอะไร ให้ตั้งจิต พิจารณา
ด้วยปัญญา อย่างแยบยล ไร้มลทิน


คบคนเช่นไร เหมือนคนเช่นนั้น

เฮอริเคน เข้าอเมริกา ตุลาสิ้น (2012)
ตรงกับถิ่น ปวารณา ปลายหน้าฝน
เฮอริเคน พายุ บุกเหลือทน
ทำให้คน อเมริกา ผวากัน

อดีตกาล นกแขกเต้า สองพี่น้อง
น้ำตานอง ต้องพลัดตก หมดสุขสันต์
เมื่อพายุ โหมกระหน่ำ พัลวัน
พัดเอารัง ของสองนก ตกปลิวไป

นกตัวพี่ ถูกพัดไป กลางไพรสณฑ์
อยู่กับโจร ก่อกรรม ทำการใหญ่
พวกโจรเห็น เลยจับเลี้ยงเ เพียงไว้ใช้
ตั้งชื่อให้ "สัตติคุมพะ วาทะโจร

ถูกโจรสอน ธรรมของโจร ก่นด่าหยาบ
สอนใช้ดาบ ใช้อาวุธ ซุกหัวโขน
สอนความชั่ว ทุกชนิด จิตหยาบโลน
สอนเสียจน นกแขกเจ้า เข้าสันดาน

นกตัวน้อง ถูกพัดหาย ไปอีกทาง
ตกลงกลาง สวนฤาษี มีสงสาร
ฤาษีเลี้ยง สอนหัด พัฒนาการ
ได้ร่วมกัน ตั้งชื่อให้ สดใสงาม

บุปผกะ ชื่อนั้นหนอ เพราะนักหนา
มีสีลา วาจาละมัย ไร้เสี้ยนหนาม
ฤาษีสอน สรรพวิชช์ จิตงดงาม
ปฏิบัติตาม ทุกค่ำเช้า เข้าสวดมนต์

กาลครั้งนั้น ก็มีเหตุ เลศน์หนักหนา
มีพระราชา เที่ยวไป กลางไพรสณฑ์
เข้าสู่ป่า ล่าสัตว์ พลัดฝูงชน
พระองค์ด้น ถึงที่อยู่ ของหมู่โจร

เจ้าสัตติ- คุมพะ สุณานก
ตัวสาวก ของโจรใหญ่ ไม่ฝึกฝน
ไม่เคยเรียน ปฏิสันถาร งานรับคน
เย่อหยิ่งตน พูดตวาด อาฆาตใหญ่

มีคนมา ฆ่ามัน คั้นเอาทรัพย์
เร็วเร็วจับ รวบหัตถ์ มัดมันไว้
พระราชา ทรงได้ยิน เสียงทันใด
เสด็จไป ไม่รื่นรมย์ สมประดี

เสด็จวิ่ง มาประสบ พบอาศรม
ที่รื่นรมย์ วนาเวศน์ เขตฤาษี
ได้พบกับ นกแขกเต้า เจ้าทำดี
ที่ฤาษี เลี้ยงไว้ ใช้รับรอง

นกแขกเต้า ถวายบังคม ก้มลงกราบ
ยืนขนาบ ด้วยปีกคราม งามทั้งสอง
พร้อมทายทัก เชิญพระองค์ เข้าตรงห้อง
ที่รับรอง เสวยน้ำ ยามเย็นเย็น

พระองค์อึ้ง อ้าพระโอษฐ์ งงพระเกศ
นับเป็นเหตุ ให้ฉงวน พระองค์เห็น
ทำไมนก สองตัวนั้น ต่างกันเกณฑ์
ทั้งทั้งเป็น พันธุ์เดียวกัน วันนี้เจอ

พระฤาษี บอกความจริง สิ่งฉวน
ที่วกวน ในพระทัย ได้เสนอ
พระราชา บอกเติบใหญ่ ไม่เคยเจอ
ฟังแล้วเออ ถึงบางอ้อ อ๋อเช่นนี้(เอง)

คบคนพาล พาลนั้นหนา พาทำผิด
คบบัณฑิต บัณฑิตหนา พาสุขี
พาให้ทาน รักษาศีล สู่ถิ่นดี
เป็นเช่นนี้ อุทาหรณ์ ที่สอนใจ

เฉกเช่นนก แขกเต้า สองพี่น้อง
จำใจต้อง จากสิ้น ถิ่นอาศัย
ด้วยเพราะเหตุ พายุกล้า วาตภัย
พัดรังได้ ปลิวปราศ คลาดจากกัน

ตัวหนึ่งตก ที่อยู่โจร หมู่ชนชั่ว
ได้เกลือกกลั่ว คนชั่วหยาบ บาปมหันต์
นิสัยจึง หยาบโลน พร้อมโทษทัณฑ์
ได้จำนรรจ์ วาทะนก ฉกแย่งชิง

ตัวที่สอง อย่างที่รู้ อยู่ประชิด
กับบัณฑิต ฤาษี ที่สุดหนิง
ฤาษีสอน จริธรรม นำสุขจริง
นับเป็นสิ่ง นกเรียนรู้ เป็นอยู่งาม

นำมาสอน เป็นกลอนกาพย์ ประดับเว็บ
ประดุจเพชร บุคลาธิษฐาน งานพระสัมม์
ยกบุคคล สถานที่ ประกอบธรรม
ขอจบความ กลอนพาที เท่านี้เอย..



ปีใหม่ที่แท้จริง

อนิจจา ชีวิต ปริตต์น้อย 
เดือนปีคล้อย ย่ำกราย มาให้เห็น 
ปีเก่าไป ใหม่โอบอ้า มาประเคน 
กาลเฉกเช่น ตะวันคล้อย ไม่คอยเรา 

แต่ก่อนนั้น เจอปีใหม่ ใจระรื่น 
สุดชื่นมื่น หรรษา หาโศกเศร้า 
เพราะเป็นเขต เทศกาล หรรษาเรา 
เป็นเขตเข้า นับอายุ ระบุวัย 

เป็นเขตมอบ คำกลอน อวยพรกัน 
เขตกำนัล ของขวัญชอบ เขตมอบให้ 
เขตยืนยัน ความรักแน่น แสนถูกใจ 
เขตทิ้งวัย ได้อายุ ระบุคน 

แท้ที่จริง กาลเวลา หามีเขต 
หามีเลศน์ เขตต่อเกย เลยสักหน 
วันเดือนปี ที่เรารู้ อยู่ทุกคน 
เป็นกาลกล สมมุติอยู่ ให้รู้กัน 

ปีใหม่จริง สิ่งควรดู รู้กำหนด 
ให้ใจจด สติดู รู้ผกผัน 
ลมหายใจ สติจับ รับให้ทัน 
ปีใหม่นั้น อยู่ที่เรา เอาจิตดู 

จะดูลม ข้างใน ใจเข้าออก 
หรือจะฟอก จิตช่วย ให้สวยหรู 
สติจับ พอง-ยุบ ระบุดู 
แล้วจะรู้ ว่าปีไหน ไม่สำคัญ 

สำคัญจริง สิ่งที่ดู รู้ำกำหนด 
จะปรากฏ เห็นปีใหม่ ให้สุขสันต์ 
สามารถพบ ปีใหม่ ได้ทุกวัน 
เป็นของขวัญ วันปีใหม่ ให้ลองดู 

นี่คือปี ใหม่พิสุทธิ์ พระพุทธฯสอน 
อย่าอาวรณ์ ปีเก่าใหม่ อยากให้รู้ 
เป็นคำสอน ของคนคม บรมครู 
ให้เรารู้ แต่ปัจจุบัน นั้นอย่างเดียว 

อนาคต ให้คลาย หายเป็นห่วง 
อดีตล่วง จงตัดใจ หายแลเหลียว 
จงฝังจิต ชิดปัจจุบัน นั้นเพียวเพียว 
ทิ้งทางเลี้ยว เดินทางตรง ไม่งงงัน 

หากปัจจุบัน นั้นทำดี ไม่มีบ่วง 
อย่าเป็นห่วง อนาคต คงสุขสันต์ 
ตัดอดีต ที่ติดต้อย คอยโรมรัน 
จะสุขสันต์ ของขวัญดี เท่านี้เอย... 

..................................................................

กลอนแสดงมุทิตาจิตแด่.."พระพรหมบัณฑิต" อธิการบดีมหาจุฬากรณราชวิทยาลัย ในคราวที่ท่านได้รับพระราชทานโปรดเกล้าเลื่อนสมณศักดิ์ ในปีนี้ 


มุทิตา มะนะจบ นบกราบไหว้ 
ขอส่งใจ ยินดี ฤดีสม 
แด่อธิการ- บดี นี้ชื่นชม 
ได้เป็นพหรม- บัณฑิต วิสิฏฐ์คุณ

เหมาะสมแล้ว ครั้งนี้   ที่ได้เลื่อน 
ไม่คลาดเคลื่อน ยศนี้ ที่อุดหนุน 
ราชาโปรด เลื่อนศักดิ์  พิทักษ์คุณ 
แผ่จำรูญ คุณวิลาศ ประกาศดี..

เหล่าลูกศิษย์ มหาจุฬาฯ คราปลาบปลื้ม 
ญาติโยมตรึม มุทิตา สง่าศรี 
ทุกหน่วยงาน อิ่มบุญ คุณความดี 
วันทนีย์ ก้มกราบ ซาบซึ้งใจ..

อาสาฬหบูชาคือวันอะไร (สำนวนกลอน) 
................. 
อาสาฬหะ นั้นหรือ คือวันดี 
วันพระศรีฯ ประกาศธรรม นำสุขศานติ์ 
วันบูชา ในเดือนแปด แทรกตำนาน 
วันพบพาน ความสุข หมดทุกข์ใจ 

วันประกาศ หลักการ งานของพุทธ 
วันพิสุทธิ์ สงฆ์ปฐม พุทธองค์ให้ 
วันพระศรี พุทธองค์ ถือธงชัย 
วันพระไตร ครบทั้งสาม งามสมจริง 

วันพระธรรม ขับเคลื่อน ล้อเลื่อนจักร 
วันความรัก อันวิมุติ สุดจะหนิง 
วันประกาศ อิสระ พระองค์จริง 
วันทุกสิ่ง บรมครู ผู้เห็นตรง 

วันเปิดฟ้า เทวดา ร่วมสาธุ 
วันมุทุ จิตน้อม ปองประสงค์ 
วันเลิกทาส วางธุระ มะนะตรง 
วันพระสงฆ์ รับรองพุทธ พิสูจน์ตน 

วันประกาศ ความจริง อันยิ่งใหญ่ 
วันเปิดใจ บอกผิดถูก ทุกแห่งหน 
วันเปิดเผย สิ่งปกปิด อุทิศตน 
วันกมล รับรู้เลิศ ประเสริฐตาม 

วันอัญญา โกณทัญญะ พระเกิดใหม่ 
วันเข้าใจ สาระธรรม นำผสาน 
วันทรงเปล่ง สรรเสริญสงฆ์ องค์ตำนาน 
วันอุทาน รับรองสงฆ์ ผู้ทรงคุณ 

วันพระพุทธ ทรงดีใจ ให้กำเนิด 
วันก่อเกิด พระธรรม นำอุดหนุน 
วันเลื่อนลั่น จักรวาฬ บริบูรณ์ 
วันเพิ่มบุญ กุศลเบ่ง เร่งฝึกใจ 

วันองค์พุทธ เปิดความจริง สิ่งยิ่งยวด 
วันขมวด สอนชีวิต จิตสดใส 
วันบอกทาง ดับทุกข์ สุขเหลือใจ 
วันเวไนย์ รับรู้ วันสู้ตาม 

วันพระองค์ นั้นตรัส อริยสัจจ์สี่ 
วันดิถี จันทร์เพ็ญ เป็นสนาม 
วันบอกโลก เปิดจริง สิ่งดีงาม 
วันรู้ตาม นิพพานมรรค ประจักษ์ตน 

วันรู้ทุกข์ ตัวการ งานเกิดอีก 
วันบอกหลีก เหตุทุกข์ เร่งฝึกฝน 
วันออกทาง ดับร้อน ต้องฝึกตน 
วันบอกผล ดับทุกข์ เป็นสุขเอย..
......................


กลอนสรุปงานยกช่อฟ้าวัดสัทธาธรรม เมืองแซนแอนโตนีโอ รัฐเท็กซัส ๑๐-๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา
สิบสิบเอ็ด ตุลาฯ ปีห้าแปด
มงคลแทรก บนเมืองแซนฯ แสนสุขสันต์
เป็นบุญใหญ่ ในเท็กซัส นัดเจอกัน
ตรงกับวัน ยกช่อฟ้า สง่างาม


ณเมืองแซนฯ วัดสัทธาธรรม นำมาเล่า
เก็บเป็นข่าว กุศล ผลล้นหลาม
งานนี้ใหญ่ มีสามส่วน ชวนติดตาม
เป็นความงาม บุญชอบ ประกอบดี


ส่วนที่หนึ่ง ประชุมสงฆ์ ดำรงเทศ
อาวาสเขต อเมริกา สง่าศรี
ส่วนที่สอง อุทิศบุญ คุณความดี
แด่พระที่ มรณภาพ ร่วมกราบกราน


ส่วนที่สาม ยกช่อฟ้า พาทำบุญ
เพื่อต่อทุน หนุนชีวี มีสุขศานติ์
ตักบาตรพระ เรือนร้อย ต้อยเติมทาน
สุขศานติ์ ปลื้มปลาบ ซาบซึ้งใจ


ในงานนี้ มีพระ มาร่วมตรึม
ยากจะลืม แต่งกลอนสด มาโพสต์ไว้
พระอเมริกา ทั้งนอกเขต ประเทศไทย
ท่านต่างให้ ความศรัทธา มาร่วมงาน


อีกทั้งญาติ- โยมพุทธ สุดจะมาก
มาล้นหลาก ร่วมด้วย ช่วยประสาน
มาด้วยจิต พิชิตบุญ หนุนวิญญาณ
ได้ร่วมกัน ใส่บาตรล้น ทุกคนรอ


ทั้งเมืองแซน เมืองออสติน ถิ่นคิลลีน
มาทั้งสิ้น ดูเพลิน เกินคำขอ
อีกทั้งเมือง ใกล้เคียง เสียงเยินยอ
ฮิวส์ตั้นหนอ ล้นหลาก ทราบกันดี


สาธุชน บุญล้นจิต มิตรเท็กซัส
ได้ประกาศ บุญยิ่งใหญ่ ในครั้งนี้
ร่วมจารึก บันทึกบุญ หนุนความดี
สุดเปรมปรีดิ์ เอ่อล้น คนเยินยอ


ใส่เป็นฟ่อน ดอลล่าร์ หาเสียดาย
ยืนเป็นสาย ใส่บาตร องอาจหนอ
เหล่าชาวพุทธ ต่างประเทศ ตั้งเจตน์รอ
บุญนี้หนอ ขอทุ่ม หนุนชีวี


ส่วนพระครู- สุตะ- ธรรมวิเทศ
ดูสังเกต หน้าปริ่ม ยิ้มแก้มปรี่
คงสุขใจ ได้สร้างบุญ คุณความดี
ให้บุญนี้ ถึงโยมญาติ ปราชญ์ชื่นชม


วันสุดท้าย ได้ถ่ายรูป อนุสรณ์
อันเป็นบ่อน รูปธรรม ทำได้สม
ถ่ายหน้าโบสถ์ โพสต์กันใหญ่ ไว้ชื่นชม
สุดพร่างพรม หาคำเกิน มาเยินยอ
ภาพเด่นเด่น เห็นจะจะ ทั้งพระโยม


เสียงคึกโคม ยกช่อฟ้า สง่าหนอ
ทั้งไอโฟน ไร้สาย ถ่ายให้พอ
ทั้งกล้องหนอ เล็กใหญ่ เอาไว้ดู
แช่ะแช่ะเดียว ภาพกระจาย ไว้บนเน็ต


เหมือนเก็บเพชร ที่แว๊บวาม ยามสวยหรู
อนุสรณ์ ป้อนขึ้นเว็บ facebookกรู
เหมือนบุญอยู่ คู่เคียงข้าง ช่างดีเอย..
ผู้แต่งกลอน ออนซอนหลาย ได้เก็บภาพ
สุดปลื้มปลาบ ทุกคนได้ ไม่วางเฉย


มาร่วมบุญ ครั้งนี้ ดีนักเลย
สุดจะเอ่ย ความใน ได้แต่งกลอน
ขอขอบคุณ โยมญาติ ปราชญ์ทุกท่าน
ที่ร่วมกัน ทำบุญญา อนุสรณ์
เกียรติประวัติ ความดี มีทุกตอน
ขอจบกลอน สรุปงาน เท่านี้เอย...

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ลาลูก (แต่งไว้แด่ลูกๆที่แม่จากไปก่อน)
โอ้ลูกจ๋า ลูกแม่ แม่แย่แล้ว
ไม่มีแวว โรคจะหาย ไร้ความหวัง
มันรุกราน ไปหลายที่ เห็นทีพัง
แม่มีหวัง ริบหรี่ลูก แม่ทุกข์ทน

ป่วยครั้งนี้ สาหัส ลูกรักเอ๋ย
แม่ไม่เคย ป่วยหนัก เลยสักหน
ป่วยครั้งนี้ แสนทรุด สุดจะทน
ลูกทุกคน อย่าช้ำ ให้ทำใจ

ธรรมะป้อน ลูกสอนแม่ แม่รับรู้
สติดู กายใจทุกข์ ลูกมอบให้
ปากอยากบอก.คอแสบ แทบขาดใจ
โรคใจร้าย ให้แม่ทรุด. สุดระกำ

หูของแม่ ได้ยินเสียง เพึยงรับรู้
ตาแม่ดู เห็นลูกด้วย มาช่วยค้ำ
เห็นทุกอย่าง ลูกหลาน นั้นกระทำ
อยากเอ่ยคำ ตอบลูกลูก แม่ทุกข์ทน

แม่ทำใจ สติดู สู้ผ่านโรค
ตัดความโศก ความอาลัย เพื่อให้พ้น
ความบีบคั้น กายใจเหลือ เพื่อทุกคน
แม่ทุกข์ทน สุดชีวี เห็นทีลา

ปัจฉิมะ วาจา คราสุดท้าย
แม่ขอให้ ลูกลูก อย่าทุกข์หนา
จงรักกัน ดูแลกัน เหมือนผ่านมา
อนิจจา สังขาร นั้นไม่ทน

ลมหายใจ เฮือกสุดท้าย ไปแล้วหนา
ทิ้งวาจา ด้วยอาลัย ให้อีกหน
ขอลูกแม่ แม่ขอลา นะทุกคน
อย่าสับสน จงสุขสันต์. นิรันดร์เทอญ...


คิดถึง"พุทธโฆส"  http://www.pali.mcu.ac.th สถานศึกษาที่ให้ทุกอย่าง หากไม่มีพุทธโฆสในวันนั้น ผู้เขียนก็คงไม่มีวันนี้


"พุทธโฆสสอนอะไร"
พุทธโฆส น้องใหม่ วิทยาลัยเขต
ถิ่นวิเนติ์ วิเศษล้ำ นำคำสอน
มุ่งศึกษา บาลีใหญ่ ไวยากรณ์
ครบทุกตอน สามสาย มีให้เรียน
อภิธานฯ มีพร้อม ถนอมศัพท์
คณานับ ศัพท์นานา พาหัดเขียน
วุโตทัย มีสอน ป้อนให้เรียน
มุ่งเป็นเซียน เหนือชั้น ฉันท์บาลี
อลังการ มีเสริม เพิ่มความรู้
ให้เป็นผู้ รู้อรรถรส หลายสดสี
รู้ลึกซึ้ง ถึงอารมณ์ สมกวี
ทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรองมี ทวิธา
พระไตรปิฎก ถกวิมุติ ยิ่งสุดซึ้ง
เพราะเรียนถึง กันหลายหมัด อรรถกถา
อรรถไม่เหมาะ เจาะทะลุ อนุฎีกา
ให้ศึกษา กันสุดสุด พุทธธรรม
วิทยาลัย ให้เรียนฟรี มีที่พัก
เฝ้าฟูมฟัก เลี้ยงชุบ อุปภัมภ์
สร้างชินบุตร พุทธศาสตร์ ปราชญ์ผู้นำ
ให้เลิศล้ำ ความรู้ มนูชน
ขอเชิญชวน ผู้ใคร่ ใฝ่ศึกษา
ปรารถนา ด้วยใจ ใฝ่ฝึกฝน
พุทธโฆษ เปิดอ้า สาธุชน
ขอนิมนต์ ผู้ใคร่ ให้ไปเรียน
เพื่อส่งเสริม ความรู้ มนูศาสน์
ผดุงปราชญ์ ศาสนา พาเสถียร
เป็นประหนึ่ง มณี ศรีวิเชียร
ให้เป็นเธียร พุททธศาสน์ วิลาสเอย..

แต่งในคราวแม่ท่านมหาปิยะเส่ีย เมื่อ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ เวลาบ่าย ๒ กว่าๆ ที่ประเทศไทย



นิทานธรรม คำกลอน เรื่องพระจักขุบาล
..............................................
มีภิกษุ  รูปหนึ่ง  ซึ่งถือเคร่ง
ได้รีบเร่ง ปฏิบัติ  เป็นหนักหนา
ไม่หลับนอน ตอนปฏิบัติ จิรัตติกาล์ (อ่านว่า จิรัดติกา)
ทำให้ตา บอดสองข้าง  อย่างมืดมล
  
ท่านได้เป็น อรหันต์  พลันตาบอด
เดินตลอด  จงกรมไป  ปลายหน้าฝน
แมลงเม่า   เต็มพื้น  ภูมิดล
เดินบินวน  บนทาง  กลางวนา

ท่านไม่เห็น  แมลงเม่า  ทางเท้านั้น
เหยียบลงพลัน  สนิทใจ ไร้กังขา
แมลงเม่า  ก็ตาย  ใต้บาทา
อนิจจา  หาใช่  ท่านไม่ยล

เวรกรรมไหน เป็นเหตุ ให้เนตรดับ
ติดมากับ  ปัจจุบัน  พลันให้ผล
ในอดีต ท่านเป็นหมอ รักษาคน
กรรมได้ด้น  จากชาตินั้น  พลันติดตาม
  
ในชาตินั้น  ท่านเป็นหมอ รักษาตา
หญิงชรา  กับลูก ทุกข์ล้นหลาม
หญิงชรา  ตาเจ็บ  เล่าเก็บความ
เธอได้ตาม หมอมา รักษาเธอ

หญิงคนนั้น  บอกว่า  หากตาหาย
จะถวาย   ตัวเป็นทาส
  บาทเสมอ
หมอจึงยอม เยียวยา รักษาเธอ
ข้อเสนอ  ของหญิงหนอ  หมอภูมิใจ

ตาของหญิง  เริ่มดี  เห็นสีแสง
เธอก็แกล้ง   พูดปลิ้นปล้อน ก่อนจะหาย
เพราะเธอกลัว  หากตาดี   นี้ต่อไป
จะต้องได้   เป็นทาสหมอ  กันพอดี

จึงโกหก  บอกหมอไป ไม่ไหวแล้ว
ตาเริ่มแจว  มืดดับ  อับแสงสี
หมอได้รู้    ว่าโกหก  ผกวจี
หญิงคนนี้  พูดสับปลับ  ต้องรับกรรม
 
 
หมอจึงแค้น  แกล้งหยอดตา ด้วยยาพิษ
หยอดเพียงนิด  ตาหญิง   ไร้สิ่งห้าม
หญิงคนนั้น   บอดจริง  ยิ่งเป็นกรรม
เที่ยวติดตาม   หมอรักษา  มานานนม

ด้วยวิปาก  รุนแรง ที่แกล้งหญิง
กรรมได้วิ่ง  ติดตามมา ให้สาสม
ถึงบวชพระ  ปฏิบัติ  หัดกมล
กรรมก็ด้น  ตามติด  ประชิดทัน

หากผู้ใด ใครผู้หนึ่ง ซึ่งทำกรรม
วิปากนำ  ตามฆาต ไม่อาจกั้น
ดุจเรื่องนี้  ที่สาธก  ถกเรื่องกรรม
จึงได้นำ  มากล่าว เล่าเป็นกลอน

เป็นสำนวน การถ่ายทอด ผู้ชอบกาพย์
นำให้ทราบ  กรรมจักษุ  อุทาหรณ์
เป็นคติ  สอนใจ  เวไนย์กร
เป็นคำสอน ของจอมปราชญ์ พระศาสดา



จากไทยดีซี สู่พิทส์เบิร์ก


วันที่เก้า  มิถุนา ปีห้าหก
ปีที่ศก  ฝรั่ง  สองพันสิบสาม

ปีชาวพุทธ  ไทยดีซี  ทำดีงาม

ได้จัดงาน   มหาบุญ อบอุ่นจริง



ได้จัดงาน อย่างดี   มีสองส่วน

ซึ่งก็ล้วน    มีคุณ  สุดจะหนิง

นับเป็นปี   มหกรรม นำสุขจริง

เป็นงานยิ่ง  ใหญ่ล้น คนยินดี



หนึ่งเป็นงาน  จัดประชุม  สมัชชาฯ
มีพระมา  มากมาย  จากหลายที่
ทั้งจากไทย  จากต่างประเทศ  เขตผู้ดี

มาครั้งนี้   เพื่อประชุม  กลุ่มพระไทย



 งานที่สอง   ของวัด  จัดใหญ่ยิ่ง
เป็นบุญมิ่ง  ขวัญชาวพุทธ  พิสุทธิ์ใส
งานวันเกิด  หลวงตาชี  ที่เกริกไกร
จัดยิ่งใหญ่  ในวิเทศ   เขตดีซี

งานครั้งนี้ สองส่วน ล้วนเป็นบุญ
ได้ประชุม  พระบริหาร กันหลายที่
ได้เข้าร่วม  สัมมนา  ประจำปี
จัดให้มี การฟังเทศน์  เอนกบุญ

มีการเทศน์ ทั้งไทย และอังกฤษ
เหล่าญาติมิตร  ชาวพุทธ  ได้อุดหนุน
ได้เลี้ยงพระ    เกือบสามร้อย   คอยเกื้อกูล
ได้เพิ่มทุน-  นิธิ  ติดตามตน

มีประชุม วิปัสสนา  สาวหาเหตุ
ตัดบ่วงเลศน์  วิธี ที่ฝึกฝน
หาแนวสอน  ที่เด่น เป็นสากล
เหล่าไทยชน  ปีติ  มีหลายงาน

ทั้งตักบาตร  หลวงตา  บูชาท่าน
เข้าแถวกัน  ทั้งโยมพระ  เฝ้าประสาน
ใส่ดอลล่าร์   ลงในบาตร  องอาจครัน
สวดมนต์กัน  สามเวอร์ชั่น สนั่นเมือง

ทั้งสรงน้ำ หลวงตา สักการะ
สัมมานะ  ยกย่อง  กันนองเนื่อง
กราบซาบซึ้ง ถึงพระคุณ อันรุ่งเรือง
ดีซีเมือง   เลืองอบอุ่น  บุญทวี

ทุกขั้นตอน ของงาน  เก็บผ่านกล้อง
ลำเลียงรอง กันใหญ่ ไร้เทปผี
บันทึกภาพ  วีดิทัศน์ จัดอย่างดี
ในซีดี   มีแจกให้ ไปไว้ดู

ทุกคนมา ร่วมงาน  ปลาบปลื้มล้น
เหล่าไทยชน  ประเทศนอก บอกสวยหรู
จัดได้ดี   น่าภิรมย์  บรมครู
เป็นงานหรู  คู่วัดไทย  ให้ชื่นชม

ผู้แต่งกลอน ออนซอนหลาย ได้จารึก
จดผนึก  เป็นกลอนใจ  ไว้สะสม
เป็นเล็คขอด  ประวัติศาสตร์  ปราชญ์ชื่นชม
เป็นคารมณ์  กวีกาพย์  ปลาบปลื้มใจ
                        
                เสร็จจากงาน หลวงตา  มหาปิยะ
                        เก็บภาระ  เสร็จสรรพ   กลับมาไหว้
                        แล้วนิมนต์  ไปชมวัด   ที่จัดใหม่
                        อยู่ไม่ไกล  จากไทยดีซี  สี่ชั่วโมง

                ได้จัดของ  ขึ้นรถโยม  ข่มความเหนื่อย
                        รถวิ่งเรื่อย  เหมือนจะรู้   สู่ทางโค้ง
                        ออกจากวัด  ไทยดีซี  ตอนสี่โมง
                        รถวิ่งตรง  สู่พิทส์เบิร์ก  ฤกษ์มงคล

                ถึงเพนซิวาเนีย  รัฐดี ที่พิทส์เบิร์ก
                        เป็นสุฤกษ์       สนธยา  ไร้ห่าฝน
                        มีภูเขา              เขียวขจี  นี้ให้ยล
                        มีสายชล         ยาวเหยียด เรียบวนา

                        มีตึกราม  โอ่อ่า   วนาทึบ
                        เป็นป่าลึก  เถาวัลย์ พันกันหนา
                        มีสะพาน   ผ่านตัด ลัดไปมา
                        แนวหินผา   บอกความเก่า  เนินเนาดิน     

                ถึงวัดใหม่  ธรรมรัตน์  วัฒน์วนา
                        วัดหลวงตา  สาขาใหม่   ให้ถวิล
                เป็นตึกสวย  สี่ชั้น  กลางธานิทร์
                        โอบล้อมสิ้น ด้วยภูเขา  ดูเข้ากัน

                        มีเพื่อนบ้าน เรียงราย ใกล้ประชิด
                        ปลูกติดติด  กันหนา  ดุจฝากั้น
                        เป็นวัดใหม่  กลางเมือง  เรืองอนันต์
                        เมืองสวรรค์  นักท่องเที่ยว  เลี้ยวมาชม
                                                                                                                                                                                                                                                     
                        
                          ก่อนจะจบ ขอเล่า กล่าวประวัติ
                        ถึงเรื่องวัด  ธรรมรัตน์   ตัดผสม
                        ความเป็นมา อุปัตติ  มีคารมณ์
                        ขอทุกคน   อ่านปิดท้าย  ได้ใจความ





ประวัติวัดป่าธรรมรัตน์  (คำกลอน)

                                   ประพันธ์โดย
   พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๒

ในคราวที่ได้มาเยี่ยมวัด  วันที่ ๙-๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖







ชาวไทยในพิทส์เบิร์ก              สุดเลอเลิศเกิดกุศล
น้อมกายถวายตน                      สร้างมงคลบนถิ่นงาม

กราบเรียนหลวงตาชี               พิทส์เบิร์กนี้ดีล้นหลาม
ภูเขาป่าไม้งาม                          ทั้งสายน้ำเย็นฉ่ำใจ


เป็นเมืองที่เก่าแก่                      ภูหินแผ่โอบเป็นสาย

ธุรกิจเหล็กอำไพ                        เป็นเมืองใหญ่ใกล้สายชล

รุ่งเรืองเรื่องกีฬา                        การศึกษาประสบผล

ธุรกิจฟูสกล                             ชาวพุทธชนพอประมาณ


อยากมีวัดเป็นหลัก                  เป็นที่พักจิตวิญญาณ
รักษาศีลกินทาน                      อีกทั้งด้านภาวนา
เผื่อแผ่แก่ชาวพุทธ                   ให้ได้พบศาสนา
ปฏิบัติวิปัสสนา                       สร้างมรรคาพึ่งทางใจ



หลวงตาได้สดับ                      เมตตารับเรื่องนี้ไว้
พร้อมกับมอบทันใด                ส่งเรื่องไปให้ศิษยา
อาจารย์มหาถนัด                     เลขาสมัชช์ได้จัดหา
รับเรื่องหลวงตามา                  พร้อมจัดหาพระให้โยม


วัดนี้อยู่กลางป่า                       ตึกวนากะพังโหม
อาคารตึกทรุดโทรม                ได้ระดมพัฒนา
ตกแต่งภายนอกใน                  สวยสดใสไร้กังขา
ทั้งหมดสี่ชั้นนา                       ชั้นดาษฟ้าเป็นอัมพร

ตรงกลางมีสองชั้น                  แบ่งลดหลั่นเป็นห้องสอน
พุทธอยู่แบ่งเป็นตอน               ที่สงฆ์นอนชั้นบนกลาง
ชั้นแรกที่เดินเข้า                      ชื่อวัดยาวเห็นกระจ่าง
ห้องครัวไปอีกทาง                  ช่วงตรงกลางไว้อบรม

ชั้นล่างห้องใต้ดิน                    ไว้เก็บทุกสิ่งของสั่งสม
ไว้หลี้หนีไฟลม                       ห้องทรุดโทรมกว่าที่ใด
เป็นห้องไว้ซักผ้า                     ทุกวัตถาพาสดใส
อีกทั้งเก็บเครื่องใช้                  ทั้งน้อยใหญ่อันมีค่า


วัดนี้ชื่อมงคล                          ใครได้ยลดีหนักหนา   
ส่องซึ้งถึงหลวงตา                  สื่อธรรมาแก้วแวววาม
หนึ่งในพระไตรรัตน์               แก้วขจัดกิเลสสาม
              “ธรรมรัตน์วัดดีงาม             เชิญติดตามกันเถิดเอย


ศุภฤกษ์ เบิกท้องฟ้า มหาสมัย
เหล่าคนไทย ในอเมริกา พาสุขสันต์
เพราะวันนี้ มีงาน ที่สำคุญ
ตรงกับวัน การทำบุญ อุ่นฤทัย

ด้วยวันที่ ยี่สิบสี่ ถึงยี่สิบเจ็ด
วันเก็บเพชร แวววาม งามสดใส
มิถุนาฯ ห้าสาม ยามวิไล
เหล่าคนไทย ในอเมริกา หน้าชื่นบาน

วัดวชิร – ธรรมะ -ปทีป
ถึงไกลริบ ก็เหมือนใกล้ ใจประสาน
มาร่วมแรง ร่วมใจ ได้จัดงาน
รวมเอาด้าน งานสามส่วน ที่ควรชม

หนึ่งประชุม คณะสงฆ์ สมัชชาฯ
มีพระมา ประชุมร่วม ส่วนผสม
สองจัดงาน พัทธสีมา น่าชื่นชม
ที่ระดม ศรัทธาสร้าง เส้นทางบุญ

สามจัดงาน วันเกิด ฤกษ์มงคล
ทั่วไทยชน คนอเมริกา มาอุดหนุน
ถวายแด่ “พระเทพ – กิตติโสภณ”
ได้มายล บารมี ที่บำเพ็ญ

คณะสงฆ์ วัดวชิระฯ คณะกรรมการ
ได้เตรียมงาม อันเกริกไกร ให้ได้เห็น
จัดปฏิบัติ กรรมฐาน งานบำเพ็ญ
เป็นจุดเด่น เสริมมงคล วิมลใจ

ได้นิมนต์ พระทั่วโลก ปาฐกร่วม
เป็นที่รวม ประชุมพระ สามัญสมัย
โยมได้บุญ พระได้งาน สานต่อไป
วัดได้ให้ อุโบสถ อย่างงดงาม

เป็นอนุสรณ์ บุญทาน งานยิ่งใหญ่
ประทับใจ ไทยชน คนสยาม
มหกรรม สามคำรบ บรรจบตาม
เป็นความงาม ที่สมส่วน ล้วนสมบูรณ์

ได้เลี้ยงพระ หลายรัฐ หลายประเทศ
ได้น้อมเกศ อำนวย ช่วยอุดหนุน
เป็นเจ้าภาพ หลายอย่าง เส้นทางบุญ
ไว้เป็นทุน- นิธี มีผลงาน

ทั้งพระ,โยม ล้นหลา มาสู่วัด
แพร่สะพัด ความดี ที่ประสาน
เป็นทัสนา นุตตริยะ พระร่วมงาน
สาหัตถิกทาน งานนี้ มีผลจริง

วันเสวย ผลสร้าง งานสุดปลื้ม
คงไม่ลืม งานนี้ ที่สุดหนิง
มาเห็นทาง รวมอรรถ ชัดเจนจริง
นับเป็นสิ่ง ควรสาธุ มุทิตา

สุดจะพร่ำ จำนรรจา หาคำพูด
ให้ครบชุด สมอยาก ยากสรรหา
ด้วยเพราะมี ความจำกัด เรื่องเวลา
อีกภาษา อักขรากลอน ก็ห่อนมี




รอยขอบทอง ของกาล นั้นใกล้แล้ว
ปีเก่าแจว ใหม่มา หาอีกหน
อายุเพิ่ม หนึ่งพ.ศ.หนอละคน
กาลหมุนวน มาบรรจบ พบอีกครา 
แต่ก่อนนั้น เจอปีใหม่ ใจเผยอ
ตอนนี้เจอ แล้วอกสั่น ขวัญผวา
เพราะยิ่งเจอ ยิ่งแก่หนัก อักอุรา
ความชรา ไม่ปราณี ที่มาเยือน 
ถึงไม่มี ปีเก่าใหม่ ก็ช่างเถิด
ธรรมก็เกิด ทุกทิวา มาเป็นเพื่อน
อุปาทะ เกิดขึ้น เหมือนหนึ่งเตือน
ว่าต้องเคลื่อน เปลี่ยนผัน ทุกวันไป 
จะฐิติ ตั้งอยู่ ไม่รู้โรย
จะไปโหย หาได้ จากที่ไหน
ไม่จีรัง พังทุกสิ่ง ไม่อิงใคร
ถมทับไว้ เป็นซาก ฝากโลกันต์ 
คุณธรรม ความดี ที่เหลืออยู่
ทั้งความรู้ ความสามารถ ที่อาจกั้น
เก็บฝากยล ผลงาน ผ่านคืนวัน
ให้โลกนั้น ระลึกถึง ซึ่งความดี 
ก่อนสิ้นปี จึงควร หวนรำลึก
ให้ย้อนนึก ที่ผ่านมา หาตอนนี้
จงชั่งดู รู้กำลัง ชั่งอีกที
ถึงตอนนี้ ขาดทุน หรือกำไร? 
หากพบว่า ความดี ที่น้อมนึก
สิ่งประพฤติ อันพิสุทธิ์ ก่อจุดหมาย
จงน้อมนำ สานทอ ทำต่อไป
ตลอดสาย ความดี ปีผ่านมา 
หากสิ่งใด ก้าวพลาด ประมาทผิด
ขอให้คิด เป็นบทเรียน เพียรศึกษา
นำเป็นครู สอนตน ยลนำพา
อย่าให้มา พลาดอีก ปลิดทิ้งมัน 
ขอจงนำ สิ่งสดใส ไปสานต่อ
สิ่งชั่วหนอ ในใจ ไม่สุขสันต์
จงสละ กับปีเก่า ไม่เอามัน
ก้าวข้ามขั้น สู่ปีใหม่ สดใสเทอญ....



เจอปีใหม่ ใจเศร้ามอง (แต่งทวนกระแสเล่น)
................
เจอปีใหม่ ทีไร ใจเศร้าหมอง
เพราะจะต้อง อายุเติม เพิ่มอีกหน
ความรู้สึก ของมนุษย์ ปุถุชน
กลัวทุกคน กลัวแน่ กลัวแก่กัน
กาลเวลา ปีใหม่ หรือปีเก่า
ก็พวกเรา สมมุติ สุดสร้างสรร
กาลเวลา ของจริง สิ่งอนันต์
หารอยขั้น สักที่ ไม่มีจริง
มนุษย์เรา ตัดเวลา มาเป็นท่อน
เป็นสื่อสอน ความเข้าใจ ให้สุดหนิง
เป็นส่วนนับ อายุขัย ให้เห็นจริง
เราจึงวิ่ง นับอายุ อยู่ร่ำไป
ปีเก่าใหม่ จึงเห็น เด่นจะจะ
เพราะมีปะ- ฏิทิน สิ่งบอกไว้
ฉีกฉีกฉีก เดือนนี้ลด หมดฉีกไป
เริ่มเดือนใหม่ หายเป็นชุด อายุคน
นาฬิกา ก็ขยับ นับความถี่
ทุกนาที ชั่วโมงกัน วันหลายหน
มาซอยวัน ซอยชีวิต พิชิตตน
นับกันจน บ่นว่าแก่ แย่กันเอง
มนุษย์สร้าง เงื่อนไข ให้ผูกมัด
เพื่อการจัด สังคมเพราะ ให้เหมาะเหม็ง
เพื่อสื่อสาร ความหมายรู้ ดูกันเอง
มนุษย์เก่ง สร้างเครื่องมัด จัดเวลา
แต่เวลา นาที ที่มีอยู่
เราทุกผู้ มีเท่ากัน นั้นรู้หนา
แล้วแต่คน จะจัดสรร วันเวลา
ให้มีค่า มากน้อย ด้อยกว่ากัน
(เท่านั้นเอง)


ใกล้ปีใหม่แล้ว มาเรียนรู้เรื่องนาฬิกากันเถอะ....นาฬิกา แปลว่า "มะพร้าว" "สำนวนกลอน"
อุปกรณ์ ตัวเอก มีเลขด้วย
มันเดินช่วย บอกเวลา หาสับสน
จุดสนใจ ของทุกผู้ ดูทุกคน
มันเดินวน อยู่กะที่ ทั้งปีเดือน
คือเจ้าตัว "นาฬิกา" นั้นนะแหละ
ที่กระแซะ แกะกาลไก หาใครเหมือน
เป็นเทคโนฯ โชว์ทุกที มีเสียงเตือน
ติ๊กติ๊กเคลื่อน เพื่อนกาล งานเวลา
นาฬิกา ทุกที่ มีประวัติ
กว่าจะจัด ศัพท์แบบนี้ มีศึกษา
นาฬิกะ ศัพท์บาลี มีที่มา
มันแปลว่า "มะพร้าว" เรารู้ดี
แล้วเหตุใด ถึงกลายพันธุ์ นั้นน่าคิด
ขอเกลอมิตร ตามกลอนมา หาวิถี
หาประวัติ ที่มา ว่าอีกที
เรื่องนั้นมี นักปราชญ์ วาทน่าฟัง
แต่ก่อนนี้ คนโบราณ นั้นแหงนหน้า
ดูเวลา อาทิตย์หนอ จนคอตั้ง
ดูการเดิน ตะวันคล้อย เมื่อยคอจัง
จึงมานั่ง ค้นวิธี ที่สุดคม
ได้ความคิด กับกะลา หามะพร้าว
นำมาเหลา จะรู ดูการล่ม
นำไปลอย ในถังน้ำ ดูการจม
หากมันล่ม เพราะน้ำเข้า เอาเวลา
กาลต่อมา มนุษย์ สุดคิดค้น
คิดดั้นด้น หาวิธี ที่โอ่อ่า
ทำอุปกรณ์ เครื่องตรง ส่งเวลา
นาฬิกา ทุกวันนี้ จึงมีกัน
อุปกรณ์ เช่นใด ขอให้บอก
เวลานอก หรือไทย ให้สุขสันต์
เราก็เรียก อุปกรณ์ ย้อนกาลกัน
ได้มุ่งมั่น ตั้งชื่อ คือนาฬิกา
เพื่ออนุสรณ์ รำลึกถึง ซึ่งมะพร้าว
ที่ชาวเรา เคยใช้ ไว้ศึกษา
ประเทศอื่น คงไม่เรียก นาฬิกา
ก็เพราะว่า บัญญัติศัพท์ ไม่ทับกัน
มีที่มา ที่ไป คนละอย่าง
เวลากว้าง จึงแคบกลม ผสมผสาน
สัญญลักษณ์ เวลา มาช้านาน
ให้ทราบกัน ตามนี้ สุขีเทอญ...
หมายเหตุ: ปัจจุบัน"นาฬิกา" ได้ถูกพัฒนา หน้าตาเปลี่ยนไป ตามจินตนาการ หรือไอเดีย มีทั้งแบบตัวเลข และเข็ม ทั้งติดเพดาน ตั้งโต๊ะ และใส่ข้อมือฯลฯหรือ ตามรถตามอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆแล้ว แต่จะพัฒนาอย่างไร ไทยเราก็ยังเรียกมันว่า "นาฬิกา(มะพร้าว) " อยู่นั่นเอง


ใกล้ปีใหม่แล้ว มาเรียนรู้ เรื่อง"กาล" กันเถอะ" (สำนวนกลอน)
กาล แปลว่า อะไร?
กาลเวลา สภาพนิ่ง สิ่งสงบ
แต่เราพบ ว่าเวลา หานิ่งเฉย
มันหนุนเวียน เปลียนไป ไม่หยุดเลย
เพราะเราเคย ชินรับรู้ ดูนาฬิกา
ยุคแรกแรก ดูอาทิตย์ และดวงจันทร์
หมุนทุกวัน ทุกคืนไป ให้ศึกษา
ผู้ยิ่งใหญ่ ให้กำเนิด วันเวลา
คมนา หมุนมานาน รู้กันดี
มาภายหลัง มนุษย์ สุดยอดเยี่ยม
ได้ตระเตรียม นาฬิกา หาวิถี
ให้คนดู รู้ว่า เวลามี
เข็มนาที ชั่วโมงบอก ไม่หลอกเรา
ไม่ลำบาก แหงนขึ้นฟ้า หาอาทิตย์
ไม่ต้องคิด ดูดวงจันทร์ นั้นเหมือนเก่า
ดูเครื่องบอก เวลาทอง ที่ของเรา
มันคอยเฝ้า กระทำเคลื่อน เตือนเวลา
คำว่ากาล จึงแปลว่า "การกระทำ"
ความหมายนำ สิ่งทำบอก มอบศึกษา
หากไม่มี "การกระทำ" นำเวลา
ก็อย่าหา ว่าทุกผู้ จะรู้กาล
สองเกลอมิตร อาทิตย์ และดวงจันทร์
หากพวกมัน ไม่กระทำ เดินข้ามผ่าน
นาฬิกา ไม่กระทำ เข็มตามนั้น
ก็จบกัน ท่านทุกผู้ หมดรู้กาล..


อันปีใหม่ อยากอุดหนุน พระคุณแม่
ท่ีท่านแก่ เพราะกาล ที่ผ่านผัน
เราสนุก ท่านสยบ พบคืนวัน
เร่งสังขาร ให้ร่วงหลุด ท่านทรุดโทรม
วันเวลา กัดกร่อน สอนใจท่าน
ให้กล้าหาญ เพื่อลูก ให้สุขสม
อยู่แห่งหน ตำบลใด ใจระทม
ท่านดุจพรหม ของลูก ทุกเวลา
วันปีใหม่ ท่านมอบใจ ส่งให้ลูก
จะสุขทุกข์ อยู่ยังไง อาลัยหา
ท่านสวดมนต์ ไหว้พระ ระลึกครา
วันเวลา ผ่านไป ท่านใยดี
ก่อนจะนอน ท่านด้น สวดมนต์ให้
พร้อมอวยชัย ให้ลูกหลาน น้นสุขี
ท่านส่งใจ ไปให้ลูก ทุกชีวี
ให้อยู่ดี นิรทุกข์ เป็นสุขเอย...



อาลัยพระพรหมฯ

อนิจจา พระพรหมฯ สมใจคิด
ได้ปลงปลิด ชีพม้วย ด้วยเส้นสาย
ประคตเอว ที่เคยฟั่น พันที่กาย
ท่านกลับได้ ใช้เป็นทูต อุปกรณ์

หมดเยื่อใย ในชีวิต ปริตต์นี้
สุดเหลือที่ จะรับได้ ให้ทอดถอน
หมดทุกอย่าง ปลายชีวิต คิดม้วยมรณ์
ตัดอาวรณ์ จึงป่อนสาย กายะพันธะนัง

จับที่ปลาย เส้นตึง ขึงกำหนด
ดึงประคต เส้นสาย ให้ฉมัง
หลับตาลง ปลงจิต ติกขะนัง
พร้อมทิ้งร่าง ลงทับ ดับชีวิน

อาสัญญกรรม อัตตะ- วินิบาต
อุปฆาต จากไป ไม่ถวิล
ตัดสินใจ ตัดบ่วง ห้วงชีวิน
โลกได้ยิน เข่าทรุด สุดอาลัย

ใยพระพรหม จึงรีบวัด ตัดช่องน้อย
ใยไม่คอย ให้ลูกศิษย์ คิดแก้ไข
มีทางออก มากมาย อยู่หลายนัย
ไม่เปิดใจ ให้ชีวิต คิดคนเดียว

สว่างมา มืดไป ให้ข้อคิด
ปลายชีวิต เผยอ เจอทางเลี้ยว
อนิจจา พาให้ ไปเพียวเพียว
ไม่แลเหลียว ปรายภพ จบไม่งาม..


เหตุเพราะท่าน ทอดอาลัย ในชีวิต
หมดดวงจิต คิดจะสู้ อยู่ไฉน
ท่านสูญสิ้น ทุกอย่าง ทางพึ่งใจ
หมดอาลัย ใจแห้งผาก ท่านจากเรา

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ชีวิตเท็กซี่
...............
ใช้ชีวิต กายใจ อยู่ในรถ
นั่งกายขด กำหนดรู้ ดูถนน
สติตื่น ขืนหลับ รถทับชน
เพราะความจน จึงทนสู้ อยู่เดียวดาย

ต้องควบคุม พวงมาลัย ใจต้องดิ่ง
จิตต้องนิ่ง ทุกเวลา หาเป้าหมาย
ชีพกำหนด ใกล้บ่วง พวงมาลัย
ความปลอดภัย ดุจด้าย ตายหรือเป็น

ต้องยอมทิ้ง ความสบาย ไม่อิสระ
จำต้องผละ ความสุข ทุกข์เห็นเห็น
บางวันอด หิวประดัง ทั้งเช้า-เย็น
เหนื่อยเกินเกณฑ์ ปวดหลัง นั่งสู้ทน

วิ่งทั้งวัน หาคน จนเหนื่อยอ่อน
ต้องจอดนอน สู้กัน วันหลายหน
ทั้งปวดหลัง ทั้งหิว กิ่วกมล
วันมีคน ดีหน่อย ค่อยสบาย

ต้องรีบทำ เวลา หาค่าเช่า
ให้อู่เขา ตามสัญญา หาให้ได้
หากวันไหน หาไม่ทัน อันตราย
ต้องเหนื่อยใจ ติดลบ นั่งซบเซา

ชะตากรรม กระเสือก ทางเลือกน้อย
ก็มั่นคอย กำลังใจ อย่าให้เหงา
สู้สู้สู้ นะเพื่อน เพื่อนของเรา
อย่าได้เศร้า เหงาจิต ชีวิตจน

ทุกข์แต่กาย ใจสงบ พบสูขได้
จะเป็นไง ใจต้องอัพ อย่าสับสน
ธรรมะดี เสียอย่าง ทางสร้างคน

แล้วจะพ้น สรรพทุกข์ เป็นสุขเอย...

.......................................................

ภาพทุกภาพจะมีค่า เมื่อเวลาเปลี่ยนไป

อันสังขาร กาลกัดกร่อน สอนธรรมะ
สาตัจจะ ปกปิดไว้ ไม่ให้เห็น
อนิจจะ กรายกร้ำ นำประเคน
สังขารเด่น จึงคร่ำคร่า ชราเยือน
ภาพมีค่า เมื่อเวลา ได้พาหนี
กลับดูที รูปใครหนา ดูหน้าเหมือน
รูปหนึ่งใบ ให้ข้อคิด สะกิดเตือน
ชราเยือน สักครู่ เร่งสู่ตาย
เป็นทูตธรรม นำบอก ฟอกดวงจิต
อย่าได้คิด ประมาท พลาดเหลือหลาย
ให้สนุก ชีวิตเดียว เดี๋ยวละลาย
เมื่อเราได้ เกิดมา อย่าลังเล
อย่ารีบตัด ชีวิต ปริตต์นี้
ใช้เต็มที่ สังขาร์ อย่าหักเห
เมื่อเกิดมา ต้องให้ ใจทุ่มเท
จะภินท์เภท์ ก็กล้าสู้ ดูมันไป

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

สุทธาวาส วัดดี ศรีRiverside
วัดในใจ ทั้งไทยเทศ เขตฝึกฝน
เป็นศูนย์รวม ดวงใจ ของไทยชน
ปลื้มกมล ได้ยลเยี่ยม เปี่ยมยินดี
ได้มาเห็น การศึกษา พัฒนาศาสน์
เจ้าอาวาส ยอดนักสู้ พระครูศรีฯ
จัดระเบียบ วัดวา สง่าดี
พร้อมกับมี การศึกษา น่าชื่นชม
เก็บผลงาน ขึ้นเว็บฯ เพชรเฉิดฉาย
เป็นแหล่งให้ ทัศนา สง่าสม
มีวีดิโอ เผยแผ่ คนแห่ชม
พร้อมสะสม ข้อมูลโปรด ให้โหลดกัน
เก็บข้อมูล ดีดี มีให้เช็ค
เป็นเว็บเด็ด ตัวอย่าง ทางสร้างสรร
เห็นภาพรวม การกระทำ ที่สำคัญ
สุดจำนรรจ์ สุทธาวาส ปราชญ์รับรอง
จัดระเบียบ ข้อมูล เป็นสัดส่วน
ซึ่งก็ล้วน แต่สิ่งดี ไม่มีสอง
ฝึกบุคคล ให้งาม ตามครรลอง
แผ่นดินทอง ที่สุกใส ได้มาเยือน
ศาสน- สถาน โครงการใหญ่
อนาคต ที่ยาวไกล หาใครหมือน
สิ่งประกัน อันมั่นใจ ไม่ลางเลือน
เป็นสิ่งเตือน อนุสรณ์ บ่อนพักใจ
ศาสน- บุคคล ฝึกฝนพร้อม
ให้จิตน้อม ประกาศธรรม นำผ่องใส
สร้างชินบุตร พุทธศาสน์ วิลาสไกล
มอบวินัย ให้ธรรมทูต พิสูจน์ตน
เป็นเว็บดี วัดสง่า น่ายกย่อง
แผ่นดินทอง ของไทยเทศ เขตฝึกฝน
เป็นดังมรรค สว่าง ทางสร้างคน
ใครได้ยล ก็สุดปลาบฯ ซาบซึ้งใจ
ขอจบกลอน เยี่ยมเยือน เหมือนเพ้อพก
ขอจบยก กลอนกานต์ ที่ขานไข
ขอสรุป ฉันท์กาพย์ ซาบซึ้งใจ
ยกนิ้วให้ วัดสุทธาวาส วิลาศเอย….

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
กลอนตัดพ้อ ตอน...ถูกคณะกรรมการวัดหนึ่งในอเมริกา
อยุติธรรม หลงอำนาจ บาดใหญ่ กระทำต่อพระ


สิบนิ้วร่าย  โลดแล่น  บนแป้มคอมฯ
บันทึกพร้อม ประวัติศาสตร์ ถูกปาดเฉือน
ได้ถูกโหวต  ถอดตำแหน่ง พร้อมแจ้งเตือน
โยมตัดเฉือน  ให้หนำใจ ทำได้ลง

เหล่าคณะ  กรรมการ  อาจหาญสิ้น
ไม่ระคิน  ปลดพระ  ว่าผุยผง
ได้ร่วมกัน  ยกมือโหวต  โทษไม่ตรง
ด้วยประสงค์  ให้ต้อยต่ำ ทำลงคอ

เขาหาว่า  พระทำงาน  นั้นเพี้ยนผิด
จึงมาปลิด ปลดสิทธิ์  ไม่คิดหนอ
ว่าทำไป  พลการ  นั้นเกินพอ
พระไม่ท้อ   ยอมได้  ให้กระทำ

เกินครึ่งห้อง  พร้อมยกมือ  ฮือกันโหวต
พระไร้โทษ   ความผิด  ไม่คิดช้ำ
อยู่ด้วยสิทธิ์  ตามไอดี  ที่พระทำ
โยมก้าวล้ำ  รุกอาราม ทำเกินไป

ถอดตำแหน่ง  เลขา   หาได้พอ
ยังสานต่อ  ยึดกุญแจ  แหมทำได้
พร้อมห้ามเปิด คอมฯวัด ตัดเยื่อใย
เหิมเกริมใหญ่  ทั้งเช็ต  เอ็ดตะโล


โทษน้อยใหญ่  ไม่มี  นี้ขอแก้
พวกเขาแย่  ใส่เรื่องมาก  ให้อหนักโข
มุ่งใส่ความ ให้ฉามฉุย คุยใหญ่โต
อีกโมโห  ชี้หน้า  พระไม่กลัว


หาหลักฐาน  ไม่มี  ชี้หน้าส่ง
พูดให้งง  เป็นการใหญ่  ไม่สลัว
ชัดทุกถ้อย  คำบาปใหญ่  ให้หมองมัว
ไม่เกรงกลัว  บาปกรรม ทำเป็นทีม

พฤติกรรม เช่นนี้  มีนานาน
น่าสงสาร  พระมา  หน้าไม่ยิ้ม
นั่งอกสั่น วันประชุม คุมพระจริง
นับเป็นสิ่ง ธรรมทูต สุดระอา

จึงขอแจ้ง  คนภายนอก  บอกแย่แล้ว
จอดไม่แจว  กรณี   นี้ศึกษา
สงสารพระ ตาดำดำ  ท่านช้ำนา
บอกจะมา  ประกาศธรรม  ช้ำเพราะโยม

อยู่ภายใต้ กรรมการ นั้นคอปเว่อร์
ไม่เคยเจอ  บางวัด  ชัดสาสม
พระไม่หวาน  ไม่ประจบ  พกคารมณ์
จึงได้ข่ม  และตะเพิด  เกิดเพราะใคร

ขอบิณฑบาต สังคม คนรอบนอก
พระขอบอก  ช่วยพระด้วย  ช่วยแก้ไข
ช่วยปกป้อง  คนละเมิด  อธิปไตย
ของพระไป  ให้พวกพ้อง  ปกครองกัน


พระหมดแล้ว วัดจะอยู่  สู้ติดฝา
อเมริกา  อาราม  ทำห้ำหั่น
ตัดสิทธิ์สงฆ์  พระอด  ปกครองกัน
  ไม่เหมือนวัน  สร้างวัด  เห็นชัดเลย

อยากให้รู้ ปัญหา  กลอนพาที
ร่ายยาวนี้  โยมจ๋า อย่านิ่งเฉย
ช่วยสะสาง  ช่วยพระ ให้เสบย
เพื่อจะเอ่ย  สอนล้ำ  พระธรรมงาม.

ให้ท่านทำ หน้าที่   ดีของสงฆ์
เจตน์จำนงค์  ตามแนวพุทธ ที่สุทธิ์สาม
ตามวินัย  พระต้อง ครองอาราม
สอนพระธรรม  ตามแนวพุทธ พิสูจน์ตน

ให้สิทธิ์ท่าน  ปกป้อง ปกครองสงฆ์
วินัยตรง  ตามแนวพุทธ  ดุจประสงค์
เจ้าอาวาส  เป็นใหญ่ วินัยตรง
จะไม่งง  สายตาพุทธ   พิสุทธิ์จริง

กรรมการ นั้นมีเสียง เพียงตัวช่วย
งานไม่สวย  พระเรียกใช้  ให้สุดหนิง
ช่วยผลักดัน  ให้ท่านเทศน์  วิเศษจริง
ประกาศสิ่ง  พุทธตรัส  วัดเจริญ

ขอให้ท่าน มีอำนาจ  รันงานท่าน
แบ่งทำงาน  โยมพระ  น่าสรรเสริญ
อย่าก้าวก่าย งานพระ จะเจริญ
อย่าทำเกิน หน้าที่ตน  จะหม่นใจ


ต้องเคารพ  การบริหาร ทุกด้านพระ
เท่าที่จะ  หน้าที่   ที่มอบให้
หมั่นเจริญ  คารวธรรม  นำจิตใจ
อย่าอยากใหญ่ บงการพระ จะล่มจม

อีกอย่างหนึ่ง  กรรมการ  นั้นชอบอ้าง
ใบเบิกทาง ให้เขาใหญ่ ใส่เสียงขรม
คือใบรอว์(Law)  กฎเหล็กวัด  ผลัดกันชม
นำมาข่ม   ขู่พระ  หาละอาย

หากใบLaw  สุดช้ำ ทำพระฝ่อ
อยากให้ขอ  เปลี่ยนใหม่  กันให้ได้
ให้พระนั้น ท่านสง่า  ธรรมาธิปไตย
จะสดใส ทั้งโยมพระ  สง่าคม

ขอปิดท้าย กลอนสุด บทสุดท้าย
ขออภัย  กรรมการ  ทำได้สม
ที่ดีดี   มีหลายวัด  ประจักษ์คม
ขอชื่นชม  สุดท้าย  บายนะโยม





เผาศพ ไม่เผาทรัพย์ "นำอริยทรัพย์มาให้วันส่งสังขาร" "นำธรรมทานมาให้วันไปดี" "นำคำสอนพระชินสีห์มาให้วันจากลา"
เมื่อวาน(๙ เมษายน ๒๕๕๙)ไปเผาศพมา เป็นศพพี่น้องชาวพุทธลาว ในโคโลราโด สปริงส์ จึงขอนำบรรยากาศ พร้อมธรรมะ สาระ ข้อคิดในวันนั้นมาฝาก เป็นสำนวนกลอน ดังนี้

อนิจจา สังขาร ไม่เที่ยงหนอ
มีเกิดก่อ พังยุบ บุบสลาย
เมื่อเกิดแล้ว ไม่จีรัง พังทะลาย
การเข้าไป ดับสังขาร นั้นสุขจริง
...............................................
ไม่นานหนอ กายนี้ จะนอนนิ่ง
กายจะทิ้ง ตนลงแคร่ นอนแผ่หรา
บนกองซาก กากดิน ถิ่นพสุธา
ปราศวิญญาณ์ ดุจท่อนไม้ ไร้คนชม.
......................................................
โยมบุญมี นี้หนอ ก็เช่นกัน
มาถึงวัน ที่ต้องพบ จบสลาย
ต้องทิ้งร่าง ดุจไม้ขอน นอนสิ้นใจ
เป็นพยาน คำสอนไท้ พุทธองค์
ถึงอยากสู้ อยู่ต่อไป ให้ยืนหยัด
ก็ไม่อาจ ห้ามตาย ใจประสงค์
ยอมราบคราบ จากญาติมิตร ยอมปลิดปลง
เป็นผุยผง เถ้าถ่าน วันจากลา
ผู้เป็นแม่ ร่ำไห้ ใจสลาย
สิ้นลูกชาย เข่าทรุด สุดโหยหา
ใส่ชุดขาว อุทิศ อนิจจา
เพื่อลูกยา แม่บวชให้ จงไปดี
อนุสรณ์ วันจาก ฝากธรรมะ
องค์พุทธะ โอวาทิน ชินสีห์
ท่านสอนว่า อย่าประมาท พลาดความดี
เพราะเรามี เวลาน้อย คอยบำเพ็ญ
ต้องรีบเร่ง ทำบุญ หนุนพระศาสน์
ต้องประกาศ ปฏิบัติ ตัดทุกข์เข็ญ
กิเลสหนา ปฏิวัติ ให้ชัดเจน
บุญเกินเกณฑ์ ส่งสวรรค์ วันจากลา.

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" กลอนวันเกิด ปี ๒๕๕๙
"จำนรรจ์ วันเกิด" (ตอน สดุดีแม่ของลูก)
ขอขอบคุณ ทุกท่าน ในวันเกิด
มอบเลอเลิศ คำพร ย้อนถวาย
นับเป็นคำ สูงส่ง จรรโลงใจ
ส่งมอบให้ บนเฟสฯ เว็บชื่อดัง
ก่อนจะมี วันนี้ วันที่เกิด
วันก่อเกิด สังขาร สร้างความหวัง
มีพ่อแม่ เป็นต้นตอ ก่อเส้นทาง
เป็นผู้สร้าง ผู้ชุบ อุปการ์ฯ
เมื่อคลอดแล้ว ท่านเลี้ยงดู คู่คำสอน
อีกทั้งป้อน ส่งลูกเรียน เพียรศึกษา
ส่วนพ่อนั้น ก็ช่วยดู คู่มารดา
เป็นเวลา ท่านทนทุกข์ กว่าลูกโต
ในวันเกิด ซาบซึ้ง ถึงสองท่าน
เป็นวันวาน งานหนัก เป็นอักโข
ท่านฝากลูก ปลูกบ่ม ในร่มโพธิ์
เป็นทูโต ธรรมทูต ชุดต่างแดน
พ่อนั้นพราก จากโยมแม่ แกนานแล้ว
เหลือแต่แก้ว ลูกเป็นบ่วง ท่านหวงแหน
เหลือแต่หลาน ผูกใจ ท่านไร้แฟน
อยู่แร้นแค้น ตลอดมา กล้าสู้ตาย
อยู่กับลูก และหลาน ท่านพอแล้ว
ยึดแต่แนว บุญกุศล ผลถวาย
รักษาศีล สวดมนต์ บ่มจิตใจ
เป็นร่มไทร หลานลูก อยู่ทุกวัน
ถึงสังขาร จะโรยรา ท่านกล้าสู้
ไม่หดหู่ ท้อแท้ แกสุขสันต์
ธรรมะสูง เต็มล้น คนชมกัน
แต่นับวัน ท่านจำพราก จะจากไป
กาลเวลา ใจร้าย ได้กัดกร่อน
แต่คำสอน ของท่าน นั้นสดใส
ถึงร่างกาย จะหง่วมงุ้ม หม่อนหมองไป
แต่จิตใจ แม่ผงาด เป็นปราชญ์ชน
ในวันเกิด ขอสดุดี ปูชนีย์ข้าฯ
ผู้สง่า มากมาย มาหลายฝน
ผู้เยี่ยมยอด ในใจลูก ทุกทุกคน
ในสกล ไร้เทียมทาน นั้นแม่เรา...

....................................................ขอบคุณจริงๆ
วันเกิด เคลื่อนย้าย กลายลับ............................ พรกลับหาหยุดผุดเห็น
น้ำใจชั่งดีเกินเกณฑ์.........................................ดั่งเช่นหยาดฝนโปรยปราย
เพื่อนมิตรเฟสบุ๊คสุดยอด..................................ไม่จอดเอื้อเฟื้อเหลือหลาย
ทะยอยมอบพรมากมาย.....................................ปลื้มใจขอบคุณจริงๆ
ขอมอบคำพรย้อนกลับ.......................................มหัปผลามาสิง
ขอผลพรใหญ่ประวิง...........................................จงวิ่งส่งผลกลับมา
ขอให้ทุกท่านมีสุข............................................ ปลอดทุกข์สุขโฉบโอบหา
ก้าวล้ำร่ำรวยเงินตรา..........................................ชีวามีสุขนิรันดร์


กลอนอาลัย หลวงพ่อพระเทพกิตติโสภณ


วันที่เจ็ด กันยายน ระทมทุกข์ เหล่าชาวพุทธ หลั่งน้ำตา คราโศกศัลย์ เมื่อรู้ข่าว หลวงพ่อหนา ลาโลกันต์ ได้อาศัลย์ มรภาพ จำจากจร เหล่าลูกศิษย์ รู้ข่าว แทบเข่าทรุด เหล่าธรรมทูต ในอเมริกา พาทอดถอน เหล่าโยมญาติ เปี่ยวฤทัย ใจอาวรณ์ ท่านม้วยมรณ์ จากไป ไม่กลับมา แสนเสียดาย หลวงพ่อ อย่างสุดซึ้ง เพียงนิดนึง ซึ่งศิษย์ คิดมาหา หมดแล้วหรือ หนึ่งจิต คิดจะมา กราบบูชา หลวงพ่อย้อน ก่อนจากไป หมดแล้วหรือ เวลา พาให้สู้ หมดการอยู่ ให้ศิษย์ คิดอาศัย หมดร่มโพธิ์ ใบหนา ที่อาลัย หมดร่วมไทย ใบทอง ของศิษยาฯ หมดแล้วหรือ โอวาทัน ที่ท่านห่วง หมดแล้วช่วง ที่เรา เฝ้าแลหา หมดแล้วหรือ ปูชนีย์ ที่บูชา เดือนกันยา พาให้ ใจอาวรณ์ เหลือเพียงร้อย จิตน้อม พร้อมอัฐิ เหลือพิ- ธีธรรม อนุสรณ์ เหลือพียงงาน ระลึกล้ำ คำอาวรณ์ เหลือเพียงบ่อน วัดที่อยู่ ดูต่างกาย เหลือความดี ของท่าน นั้นท่วมท้น เหลือเพียงคน ระลึกกราบ ทราบใจหาย เหลือวันวาน สานต่อ ทอจากใจ น้อมกราบไว้ รำลึกกัน วันทำบุญ วันที่สิบ กันยาฯ ปีห้าเก้า เป็นวันเหล่า ศิษยาฯ มาอุดหนุน ได้จัดงาน มหารำลึก นึกถึงคุณ ได้ทุ่มทุน จัดงาน กันอีกที เพื่อรำลึก ถึงหลวงพ่อ ทอกุศล ทุ่มกมล บุญใหญ่ ในครั้งนี้ พร้อมรำลึก ถึงธรรมทูต ชุดทำดี ที่ท่านพลี กายสังขาร ที่ผ่านมา เป็นบุญใหญ่ สมัชชาฯ พาเราจัด ณที่วัด วชิระฯ พระมาหา จากหลายวัด ในวิเทศ เขตอเมริกา น้อมบูชา พระสงฆ์ ผู้ทรงคุณ เป็นบุญใหญ่ ประจำปี มีคำตอบ เพื่อประกอบ ศรัทธา พาอุดหนุน เพื่อสานต่อ กตัญญ รู้แทนคุณ เพื่อเพิ่มพูน ผลสุขสันต์​ นิรันดร์เทอญ ด้วยความเคารพอย่างสูง ประพันธ์โดย..พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๒